วันที่นำเข้าข้อมูล 16 เม.ย. 2563
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 27 พ.ย. 2565
เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2563 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนบวกสาม สมัยพิเศษ ว่าด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ผ่านระบบการประชุมทางไกล โดยมีนายเหวียน ซวน ฟุก นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ในฐานะประธานอาเซียน เป็นประธานการประชุมและมีผู้นำจากประเทศสมาชิกอาเซียนและประเทศคู่เจรจาบวกสาม ประกอบด้วย สาธารณรัฐประชาชนจีน ญี่ปุ่น และสาธารณรัฐเกาหลี ตลอดจนเลขาธิการอาเซียนและผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก เข้าร่วมด้วย
ที่ประชุมได้แลกเปลี่ยนสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และมาตรการของแต่ละประเทศ และยืนยันเจตนารมณ์ที่จะร่วมมือกันในการรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างมีประสิทธิภาพ ทันท่วงที และบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในวงกว้าง ตลอดจนเตรียมความพร้อมรับมือกับวิกฤตการณ์อื่น ๆ ในอนาคต
ที่ประชุมนำเสนอแนวทางความร่วมมือระหว่างอาเซียนบวกสามในด้านสาธารณสุข โดยการเสริมสร้างขีดความสามารถในการตอบสนองต่อภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข การแลกเปลี่ยนข้อมูล ประสบการณ์และแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศทางการแพทย์ การวิจัยเพื่อพัฒนาวัคซีนและยาต้านไวรัส การจัดตั้งคลังสำรองอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นของภูมิภาค
ในด้านสังคม เน้นการช่วยเหลือคนชาติของประเทศอาเซียนบวกสาม การลดผลกระทบจากข่าวปลอม และการใช้ประโยชน์จากองค์กรสำรองข้าวฉุกเฉินอาเซียนบวกสาม ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศไทยเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหาร และในด้านเศรษฐกิจ ให้ความสำคัญกับการรักษาตลาดที่เปิดกว้างและห่วงโซ่อุปทาน โดยเฉพาะสินค้าที่สำคัญ เช่น อาหาร ยา และอุปกรณ์ทางการแพทย์ เป็นต้น การส่งเสริมการเดินทางและเคลื่อนย้ายของประชาชนเพื่อคงไว้ซึ่งพลวัตทางเศรษฐกิจ การใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เศรษฐกิจดิจิทัล พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้ประกอบการ MSMEs การกำหนดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและแผนฟื้นฟูหลังการระบาด รวมถึงการใช้มาตรการริเริ่มเชียงใหม่พหุภาคีเพื่อส่งเสริมเสถียรภาพทางการเงินในภูมิภาค ในการนี้ ผู้นำประเทศคู่เจรจาบวกสามได้ย้ำความสำคัญของการลงนามความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ ระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership: RCEP) ภายในปีนี้ เพื่อกระตุ้นการค้าและสร้างความมั่นใจให้แก่ภาคธุรกิจ
นายกรัฐมนตรีได้นำเสนอสถานการณ์และมาตรการรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด-๑๙ ในประเทศไทย และได้เสนอจัดตั้ง “กองทุนอาเซียนเพื่อรับมือกับโควิด-19” ด้วยการจัดสรรจากกองทุนความร่วมมือของอาเซียนและกับประเทศบวกสามที่มีอยู่แล้ว มาสนับสนุนการจัดหาชุดตรวจและอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ การใช้เทคโนโลยีเพื่อพัฒนาสาธารณสุขในภูมิภาค และการสร้างภูมิคุ้มกันทางเศรษฐกิจด้วยการใช้แนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยยกตัวอย่างของไทยที่ได้น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินการในเรื่องนี้
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้รับรองถ้อยแถลงร่วมของการประชุมสุดยอดอาเซียนบวกสาม สมัยพิเศษ ว่าด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เพื่อแสดงเจตนารมณ์ทางการเมืองร่วมกันและระบุถึงมาตรการที่ได้หารือในที่ประชุม รวมทั้งสนับสนุนข้อเสนอของไทยในการจัดตั้งกองทุนอาเซียนเพื่อรับมือกับโควิด-19 ด้วย
รูปภาพประกอบ
เวลาทำการ: วันจันทร์ - วันศุกร์ 09.00 – 12.00 น. และ 13.30 – 17.00 น. (ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)
เวลาทำการฝ่ายกงสุล : วันจันทร์ - วันศุกร์ 09.00 – 12.00 น.