เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2564 นางสาว วันทนีย์ วิพุธวงศ์สกุล เอกอัครราชทูต และคณะเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตได้รับฟังการบรรยายสรุปและเยี่ยมชมโรงงานผลิตก๊าซธรรมชาติของบริษัท Brunei LNG เขต Lumut, Kuala Belait รวมทั้งหารือถึงความร่วมมือระหว่างไทยกับบริษัท พร้อมด้วยเอกอัครราชทูตลาว ภริยา และเจ้าหน้าที่ โดยมี Hajah Faridah Dato Seri Paduka Haji Talib ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (MD/CEO) และคณะผู้บริหารให้การต้อนรับ
        บริษัท Brunei LNG ก่อตั้งขึ้นในปี 2512 ในพื้นที่ 130 เฮกตาร์ เป็นโรงงานผลิตก๊าซ LNG ขนาดใหญ่แห่งแรกในบรูไนและในเขตแปซิฟิกตะวันตก นับเป็นแหล่งผลิตก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยมีประสบการณ์ในการผลิตเป็นระยะเวลา 50 ปี Brunei LNG เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างรัฐบาลบรูไน บริษัท Shell Overseas Holdings Limited และ บริษัท Mitsubishi Corporation ประสบความ สำเร็จในการเป็นผู้ริเริ่มบุกเบิกการกลั่นก๊าซธรรมชาติในระดับมหภาคและการขนส่งก๊าซเป็นครั้งแรก โดยบริษัทมีเรือขนส่งก๊าซ LNG จากบรูไนไปยังประเทศญี่ปุ่น เกาหลี จีน มาเลเซีย ไต้หวัน และไทย (นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด)
        Brunei LNG สามารถผลิตก๊าซได้สองประเภท ได้แก่ 1. ก๊าซธรรมชาติ LNG ซึ่งเป็นสินค้าหลัก โดยในปี 2563 ผลิตก๊าซ LNG ได้ 269 ล้านตันคิดเป็นมูลค่า 695 พันล้านดอลลาร์บรูไน มีบริษัท Brunei Shell Petroleum (BSP) ร่วมทุนเพื่อทำการขุดเจาะก๊าซธรรมชาติในฐานขุดเจาะหลัก 3 แห่ง ได้แก่ South-West Ampa field Fairley field และ Gannet field เพื่อส่งมาที่โรงงานผลิต และในปี 2542 บริษัท Total ร่วมขุดเจาะก๊าซ LNG จากฐานขุดเจาะ Jamalul Alam และ Maharaja Lela fields และในเดือนสิงหาคม 2546 บริษัท BSP ทำการขุดเจาะก๊าซจากฐานใหม่ที่ Egret field ส่งให้ Brunei LNG 2. ก๊าซหุงต้ม (Liquefied Petroleum Gas /LPG) บรรจุลงถังแก๊ซเพื่อจำหน่ายภายในประเทศ นอกจากนี้บริษัทยังส่งก๊าซ LNG ให้กับโรงผลิตกระแสไฟฟ้า ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตบรูไนอีกด้วย